“Hi-Res Audio” คืออะไร
ทำไม Hi-Res Audio จึงเป็นที่นิยม
เหตุผลหลักที่มักจะถูกหยิบมาพูดถึงก็คือ มันให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า ฟังแล้วรู้สึก “ดีต่อใจล้วนๆ” มากกว่าฟอร์แมตที่มี resolution ต่ำหรือประเภท lossy compressed ไฟล์เสียงที่ดาวน์โหลดจาก Amazon, iTunes หรือจากสตรีมมิงอย่าง Spotify, Apple Music จะเป็นไฟล์ที่มีบิตเรตต่ำเนื่องจากใช้เทคนิคการบีบอัดข้อมูลแบบ lossy compressed เช่น ไฟล์ Ogg Vobis (lossy compressed อีกประเภทหนึ่ง) 320kbps จาก Spotify หรือไฟล์ AAC 256kbps จาก Apple Music
ในช่วงหลายปีมานี้คุณน่าจะเคยได้ยินคำว่าระบบเสียงรายละเอียดสูงหรือว่า “High-Resolution Audio” ซึ่งนิยมเรียกกันอย่างย่อว่า “Hi-Res Audio” กันมาบ้างแล้ว แม้จะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเติบโตและเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการที่มีสินค้ารองรับ Hi-Res Audio ออกสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในกลุ่มเครื่องเสียงไฮไฟแยกชิ้น, เครื่องเสียงไลฟ์สไตล์, เครื่องเสียงติดรถยนต์ หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต หลายรุ่นก็รองรับ Hi-Res Audio ด้วยเช่นกัน
Hi-Res Audio คือ
ไฟล์เพลงที่มีความถี่แซมเปิล (sampling frequency) และ/หรือมีบิตเด็ปธ์ (bit depth) สูงกว่า 16bit/44.1kHz ซึ่งเป็นมาตรฐานของฟอร์แมตซีดีเพลงนั่นเอง เช่น 24bit/44.1kHz, 24bit/96kHz หรือ 24bit/192kHz เป็นต้น ด้วยปริมาณข้อมูลที่มากกว่าไฟล์เสียงทั่วไปหลายเท่าทำให้ Hi-Res Audio นั้นมีขนาดไฟล์ที่ค่อนข้างใหญ่ถึงใหญ่มาก โดยทั่วไปจะมีขนาดหลายสิบเมกะไบต์ต่อไฟล์ โดยขึ้นอยู่กับ resolution (bit depth และ sample rate) และความยาวของเพลง ทำให้ค่อนข้างสิ้นเปลืองพื้นที่เก็บข้อมูล
Format เสียงใดบ้าบที่เป็น Hi-Res Audio
ฟอร์แมต MP3 (ไม่นับว่าเป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต AAC (ไม่เป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต WAV (เป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต AIFF (เป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต FLAC (เป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต ALAC (เป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต DSD (เป็น Hi-Res Audio)
ฟอร์แมต MQA (เป็น Hi-Res Audio)
ดังนั้นแล้วนอกจากคุณจะเลือกเปิดเพลงฟอร์แมท Hi-Res Audio ก็ต้องเลือก หูฟัง ลำโพง และ เครื่องเสียงของคุณ ที่สามารถสร้างเสียงระดับ Hi-Res Audio ได้ด้วย โดยดูที่ช่วงความถี่ของลำโพง ว่ามีระดับถึง 192kHz หรือเปล่าเพื่อ ความเข้าถึง Hi-Res Audio อย่างแท้จริง